fbpx

“ลงทุนมัม” ได้ไปอ่านบทความของ World Economic Forum ที่เขียนเล่าถึงว่า ทำไมหลักสูตร การศึกษาฟินแลนด์ ถึงได้รับการจัดอันดับว่าเป็นหลักสูตรการศึกษาที่ดีที่สุดในโลก อ่านแล้วน่าสนใจดีค่ะ เลยอยากจะเอามาเล่าสรุปให้เพื่อนๆได้อ่านกัน 

“ลงทุนมัม” บอกเลยว่า มันช่างแตกต่างกับหลักสูตรการศึกษาที่ “ลงทุนมัม” เคยเรียนมาตอนเด็กๆอย่างมากเลยค่ะ 

มาลองดูกันนะคะว่า อะไร ทำให้ การศึกษาฟินแลนด์ ถึงเป็นเบอร์ 1 ของโลกได้

  1. ไม่มีการสอบแบบ Standardized Test ฟินแลนด์ไม่มีการสอบวัดระดับ เพื่อเปรียบเทียบคะแนนกันระหว่างนักเรียน เพราะ ประเทศฟินแลนด์เชื่อว่า การทำแบบนั้น จะทำให้นักเรียน มุ่งเน้น เรียนเพื่อการสอบเพียงอย่างเดียว ไม่ได้เน้นที่จะเรียนรู้อย่างแท้จริง
  2. คุณครูที่ฟินแลนด์ มีแต่ระดับหัวกะทิทั้งนั้น คนที่จะมาเป็นคุณครูที่ฟินแลนด์จะต้องเรียนจบระดับชั้นปริญญาโทขึ้นไป แล้ว การเลือกเรียนในคณะที่จะจบมาเป็นครู ก็สอบเข้ายากมากๆ คล้ายๆ กับ การสอบเข้า หมอ หรือ วิศวะ ของบ้านเรา เรียกได้ว่า คัดแต่ระดับ หัวกะทิ มันสมองของชาติมาสอน และ พัฒนาเยาวชนของชาติทั้งนั้น
  3. การเรียนที่เน้นการร่วมมือกันเป็นทีม ไม่ใช่การแข่งขันของแต่ละบุคคล โรงเรียนที่ฟินแลนด์ เด็กๆจะไม่เน้นแข่งขันกันในการเป็นเลิศทางวิชาการ แต่จะร่วมกัน เรียนรู้เป็นทีม แถม คุณภาพของโรงเรียนที่ฟินแลนด์ ก็ดี ค่อนข้างใกล้เคียงกันทั้งประเทศด้วย
  4. โรงเรียนจะต้องเป็น สถานที่ที่เด็กนักเรียนมาแล้วมีความสุข เด็กๆที่ฟินแลนด์จะได้รับการศึกษาที่เท่าเทียมกันทุกคน รวมไปถึง การดูแลด้าน อาหารการกิน สุขภาพกาย และ สุขภาพจิตใจ ฟรีทุกคน เรียกได้ว่า ไปโรงเรียน ได้ เรียนฟรี กินฟรี แถมยังสนุกอีกด้วย
  5. เด็กๆ เริ่มไป โรงเรียนตอนอายุ 7 ขวบ การศึกษาภาคบังคับของฟินแลนด์ จะเริ่มตั้งแต่อายุ 7 ขวบ จนถึง 16 ปี เพราะ ฟินแลนด์ต้องการให้เด็กๆ ก่อน 7 ขวบ ได้ใช้ชีวิตความเป็นเด็ก เล่นสนุกให้เต็มที่ ไม่ต้องมากังวลเรื่องการไปโรงเรียน 
  6. มหาวิทยาลัย ไม่ใช่คำตอบเดียวของการศึกษาขั้นสูง เด็กๆที่ฟินแลนด์มีทางเลือกที่จะเลือกเรียนได้ทั้งสายอาชีพ หรือ จะไปเรียนต่อมหาวิทยาลัย 
  7. เด็กฟินแลนด์ ไม่ต้องเริ่มเรียนตั้งแต่เช้าตรู่ เพราะปกติ โรงเรียนในฟินแลนด์ จะเริ่มเรียนประมาณ 9 โมงเช้า ทำให้เด็กมีเวลาในช่วงเช้าที่จะนอนตื่นสาย หรือ ทานอาหารเช้าที่ไม่ต้องเร่งรีบ
  8. เด็กๆประถมจะได้เรียนกับคุณครูคนเดิมต่อเนื่องเป็นเวลา 6 ปี ทำให้คุณครูมีความคุ้นเคย และ เข้าใจพัฒนาการของเด็กได้อย่างลึกซึ้ง
  9. เรียนไป พักไป เด็กๆ ไม่เครียด เพราะที่ ฟินแลนด์ เด็กๆ จะเรียนแค่ประมาณ วันละ 4 ชั่วโมง ซึ่งใน ทุกๆ 45 นาที จะมีพักเบรก 15 นาที การเรียนแบบนี้ จะทำให้สมองของเด็ก ไม่ต้องทำงานล้าจนเกินไป และจะทำให้เรียนรู้ได้เต็มที่กว่า
  10. โรงเรียนจะไม่เน้นให้เด็กทำการบ้านเยอะๆ แต่จะเน้นให้เด็กมีเวลาได้ออกไปทำกิจกรรมอื่นๆ นอกเหนือจากการเรียนมากกว่า เด็กๆที่ฟินแลนด์ใช้เวลาหลังเลิกเรียนในการทำการบ้านน้อยมาก (10-30 นาที) เพราะ โรงเรียนต้องการให้เด็กๆ ได้ใช้เวลาหลังเลิกเรียนในการ อยู่กับครอบครัว เล่นกับเพื่อน หรือ ทำอย่างอื่นที่เด็กๆสนใจ
In the Finnish classroom, students may learn several subjects at the same time in a group setting, with the teacher as a guide. They learn to co-operate, communicate, be together, and be creative. /Agate PR

เพื่อนๆอ่านแล้ว คิดว่าอย่างไรกันบ้างคะ สำหรับ หลักสูตรของฟินแลนด์? “ลงทุนมัม” ว่า สำหรับเด็กๆเอง คงจะเป็นบรรยากาศการเรียนที่สนุกดีทีเดียว เพราะ เรียนไม่มาก เน้นเล่นและพัฒนาตามวัย แถมยังไม่ต้องไปสอบแข่งขันกับเพื่อนๆ เปรียบเทียบคะแนนกันอีก เป็นแนวคิดที่น่าสนใจมากค่ะ ไม่รู้ว่า ประเทศไทย เริ่มมีการทำ การเรียนการสอนแบบนี้มาใช้กันบ้างหรือยังนะคะ? 

ถ้าใครสนใจ LIVE “ลงทุนมัม” ชวนคุยกับ “คุณเกตุ” ผศ. ดร. พิชญ์​วดี​ กิตติ​ปัญญา​งาม
ผู้ร่วมก่อตั้งและ Chairwoman​ ของ Arkki
สถาบันสอนหลักสูตรเสริมทักษะสำหรับอนาคต​ (future skills education) ที่ได้รับการรับรองจากกระทรวงศึกษา​ฟินแลนด์​ฟินแลนด์ฝึกเด็กอย่างไรให้เป็นที่ 1 ด้าน Future Skills ลองดูได้ที่นี่นะคะ

อ้างอิงจาก:

.
.

สนใจเรื่องราวเกี่ยวกับการฝึกทักษะลูก ลองอ่านที่นี่ค่ะ

https://www.longtunmom.com/skills-improvement/

.

.
.
ช่วยกันกดไลค์หรือคอมเมนต์เป็นกำลังใจให้ “ลงทุนมัม” กันด้วยนะคะ และอย่าลืมกด See First เพื่อไม่ให้พลาดข้อมูลดีๆจาก “ลงทุนมัม” ค่ะ
.
++ ชอบอ่านบทความดีๆ มีสาระพร้อมความบันเทิง กดติดตามได้ที่ ++
FB: http://www.facebook.com/longtunmom/
Page: https://www.longtunmom.com
.
++ เน้นเรื่องรีวิวโรงเรียน กดติดตามได้ที่ ++
FB: http://www.facebook.com/reviewmom/