fbpx

ในขณะนี้ ผู้ปกครองหลายๆคน รวมถึง เด็กๆ คงเริ่มคุ้นเคยกับ การเรียนแบบ Online กันแล้ว ซึ่งแต่ละโรงเรียนก็มีวิธีการสอนที่ค่อนข้างแตกต่างกัน วันนี้ “ลงทุนมัม” เลยชวน คุณแม่จอย ซึ่งมีลูกชาย เรียนอยู่โรงเรียนนานาชาติ ระบบอเมริกัน แห่งหนึ่งในกรุงเทพ มาเล่า ประสบการณ์ Online Learning ของน้องให้ฟังค่ะ โดยลูกชายของ คุณแม่จอยกำลังเรียนอยู่ในชั้น K2 ลองมาอ่านกันดูว่า น้องต้องมาเรียนออนไลน์แล้วเป็นอย่างไรบ้าง มีการปรับตัวอย่างไรค่ะ

คุณแม่จอย แชร์ประสบการณ์ Online Learning ใน ช่วง Covid-19

“ลงทุนมัม”:  Online learning ของโรงเรียน เรียนวิชาอะไรบ้างคะ?

คุณแม่: ที่โรงเรียนจะแบ่ง การเรียนออกเป็น 2 แบบค่ะ คือ มีทั้ง Live Session และ เรียนผ่านวิดีโอ ที่คุณครูอัดไว้ล่วงหน้าค่ะ 

  • Live Session ก็จะมีวิชา World discovery/ Literacy, Math discovery, Thai, STEM และ Story time ซึ่งจะมีเรียนสลับกันไปรายวัน วิชาละ 30 นาที โดยเมื่อเรียนจบหนึ่งวิชาแล้ว คุณครูจะมีให้นักเรียนไป Break พักจากหน้าจอ ไปทำงานตาม Assignment ที่เรียนเป็นเวลา 30 นาที แล้วค่อยกลับมาเรียนวิชาถัดไปค่ะ ซึ่งวันๆหนึ่งจะมีเรียน Live Session รวมเป็นเวลา 1 ชั่วโมงครึ่งค่ะ สัปดาห์หนึ่งจะมี Live Session 5 วันค่ะ (จันทร์-ศุกร์)
  • ส่วนถ้าเป็นแบบวิดีโอที่คุณครูอัดไว้ล่วงหน้า จะมีวิชา Music, movement, color shape & design (art), performant arts)

“ลงทุนมัม”:  การเรียนการสอนแบบ online ของโรงเรียนเป็นรูปแบบไหนบ้าง ใช้สื่อการสอนอะไรบ้าง

คุณแม่: ถ้าเป็น Live Session หลักๆ คุณครูจะสอนผ่าน Microsoft team ค่ะ โดยระหว่างที่สอน คุณครูจะมีวิดีโอสั้นๆ สอนประกอบด้วย

ส่วนถ้าเป็นแบบวิดีโอที่คุณครูอัดไว้ล่วงหน้า คุณครูจะส่ง Link มาทาง Microsoft team เมื่อเด็กๆดูแล้วก็ อัดผลงานส่งเป็นวิดีโอส่งกลับไปให้คุณครูดู ผ่านทาง Microsoft team ซึ่ง คุณครูก็จะตอบกลับมาค่อนข้างรวดเร็วถ้าอยู่ใน School Hours ค่ะ  

สื่อการสอนที่เป็นกระดาษ ทางโรงเรียนจะทำการเตรียมให้รายสัปดาห์ แล้วนัดเวลาให้ผู้ปกครองเข้ามารับเอกสารที่โรงเรียน โดยกำหนดให้ ผู้ปกครองเข้ามารับได้ครอบครัวละ 1 คนค่ะ และ ไม่ต้องให้เด็กมาโรงเรียนด้วย ซึ่งสะดวกดีมากค่ะ

“ลงทุนมัม”: หลักสูตรที่โรงเรียนสามารถสอนให้เด็กเข้าใจได้มากน้อยแค่ไหน คุณแม่เองต้องช่วยเหลือลูกในการเรียนแบบไหนบ้าง คุณครูมีความช่วยเหลือหรือมี feedback กับการบ้านที่ส่งไปมากน้อยแค่ไหน

คุณแม่: ลูกสามารถเข้าใจสิ่งที่คุณครูสอนได้ค่อนข้างดีค่ะ มีคุณแม่คอยช่วยอธิบายต่อยอด ซึ่งจริงๆแล้วมองเป็นข้อดี เนื่องจากพอมาเรียน online ที่บ้านจึงทำให้รู้ว่า ที่โรงเรียนสอนอะไรและมีอะไรที่ลูกเข้าใจหรือไม่เข้าใจจริงๆบ้าง ทำให้ตอนอยู่บ้านคุณพ่อคุณแม่สามารถเล่นเพื่อเสริมกับสิ่งที่โรงเรียนสอนแต่ลูกไม่เข้าใจได้ โดยเฉพาะของลูกชายที่พึ่งย้ายโรงเรียนมาจาก โรงเรียนระบบไทย ซึ่งค่อนข้างแตกต่างจากที่นี่มาก ส่วนคุณครูก็ feedback การบ้านเกือบจะทันที ถ้าเป็นเวลา School Hours และสามารถให้ ผู้ปกครองถามคุณครูได้ในกรณีมีข้อสงสัย โดยถามผ่าน private chat ใน Microsoft Team ซึ่งคิดว่าดีค่ะ 

“ลงทุนมัม”: คุณแม่จัดตารางการเรียนการเล่นในแต่ละวันของลูกอย่างไรบ้าง และมีวิธีอย่างไรให้ลูกเรียนตามตารางได้คะ?

คุณแม่: ช่วงเช้าก็จะเรียน online ของที่รร. ตามตารางที่โรงเรียนจัดมาให้ค่ะ หลังจากนั้นก็จะให้เล่นอิสระ แต่ก็จะบอกลูกไว้ก่อนว่ามี assignment อะไรที่ต้องทำบ้างในช่วงบ่าย แล้วตกลงกันว่าจะจัดลำดับกิจกรรมยังไง

วิธีที่ให้ลูกทำตามตาราง คือ บอกลูกว่านี่คือการไปโรงเรียน เพราะฉะนั้นตื่นมากิจวัตรจะเหมือนไปโรงเรียน แต่ทำที่บ้าน  และจะบอกลูกก่อนว่าแต่ละวันมีแผนต้องทำอะไรบ้าง และช่วยกันคิดว่าจะทำอะไรก่อนหลัง 

“ลงทุนมัม”: เนื่องจากน้องยังเรียนอยู่ในชั้นอนุบาล คุณแม่มองว่าการเรียนแบบ online เป็นอุปสรรคอะไรหรือไม่คะ?

คุณแม่: คุณแม่คิดว่า ไม่ถึงขั้นเป็นอุปสรรคค่ะ สำหรับครอบครัวเรา เพราะมีคุณแม่เป็นคุณแม่ full time แต่ต้องยอมรับว่า คุณแม่ก็เหนื่อยกว่าเรียนแบบปกติ

ส่วนเรื่องการเรียนรู้ของลูก ลูกมีความสุขสนุกกับการเรียน แค่นี้ก็น่าจะเพียงพอสำหรับเด็กปฐมวัย เพราะกิจกรรมที่คุณครูให้เด็กๆทำ ลูกก็มีความสุขดี ปัจจุบัน ลูกดูหน้าจอแบบ interactive วันละ 1ชม.ครึ่ง กับ offline 15-30 นาที ก็คิดว่ารับได้ค่ะ

“ลงทุนมัม”: ในกรณีที่คุณพ่อคุณแม่ต้องทำงานตอนกลางวัน จัดสรรเวลาให้ลูกเรียนได้อย่างไร

คุณแม่: แบบนี้ก็จะลำบากหน่อยค่ะ เพราะขนาดคุณแม่ทำแค่งานบ้านบางอย่าง ก็ต้องจัดสรรเวลาของคุณแม่ใหม่ แล้วอธิบายให้ลูกเข้าใจ

ส่วนกรณีที่คุณพ่อคุณแม่ต้องทำงานจริงๆ ทางรร.ก็จะมีวิดีโอที่สอนไว้ให้ดูย้อนหลังได้ค่ะ 

“ลงทุนมัม”: คุณแม่มีความคิดเห็นอย่างไรกับการสอน Online ที่ผ่านมาคะ?

คุณแม่: คิดว่าจากสถานการณ์ปัจจุบัน ที่ไม่ทราบว่าจะต้องหยุดการไปโรงเรียนอีกนานแค่ไหน การเรียน online แบบนี้ก็เป็นทางเลือกที่ดีและเหมาะสมนะคะ ซึ่งทางโรงเรียนที่น้องเรียนอยู่ก็ถือว่า มีการจัดการเรียนการสอนได้อย่างน่าพอใจ คุณครูทุกคนดูทุ่มเทให้กับเด็กดีค่ะ

“ลงทุนมัม”: คุณแม่มองเห็นข้อดีของ Online Learning ในช่วงภาวะ Covid-19 นี้อย่างไรบ้าง?

คุณแม่: ข้อดีที่คุณแม่รู้สึกได้เลยคือ

  • ได้ใช้เวลากับลูกอย่างเต็มที่
  • ได้เห็นการเรียนการสอนของที่รร.
  • ได้เห็นศักยภาพและพัฒนาการของลูก
  • อยู่บ้านปลอดภัย ห่างไกล covid19
  • แม่ได้พัฒนาตัวเอง เพราะต้องพยายามเป็นนางฟ้า ควบคุมสงบสติตัวเองทุกวัน

“ลงทุนมัม”: ขอ 3 คำกับ Online Learning

คุณแม่: “En-joy-ดี” / “บัน-เทิง-ดี”

“ลงทุนมัม” ฟังคุณแม่จอยเล่าแล้ว ต้องบอกเลยว่า ที่โรงเรียนของลูกคุณแม่จอย จัดการเรียนการสอนแบบ Online Learning ได้ดีเลยค่ะ การจัดเวลา Screen Time สำหรับเด็กเล็ก ก็ถือว่าไม่ได้นานจนเกินไป อีกทั้งการได้เรียนโต้ตอบกับคุณครูแบบ Live Session ทุกวัน ยังทำให้เด็กๆคงกิจวัตรการไปโรงเรียนได้ค่อนข้างคล้ายกับช่วงที่โรงเรียนยังไม่ปิด ได้ฝึกให้เด็กโต้ตอบและทำกิจกรรมต่างๆกับครูต่างชาติทุกวัน และอีกสิ่งหนึ่งที่ “ลงทุนมัม” ชอบมาก คือ การที่โรงเรียน มีการเตรียม Materials ต่างๆที่จะต้องใช้เรียนประจำสัปดาห์ล่วงหน้าให้กับนักเรียนในทุกๆสัปดาห์ ตรงจุดนี้ จะช่วยลดภาระผู้ปกครอง ที่จะต้องมานั่งพิมพ์เอกสาร หรือ เตรียมวัสดุ อุปกรณ์ต่างๆได้มากทีเดียวค่ะ

“ลงทุนมัม” ต้องขอขอบคุณคุณแม่จอย และ ครอบครัวมากๆ ที่มาช่วยแบ่งปันเรื่องราวดีๆ เกี่ยวกับ ประสบการณ์ Online Learning ของน้องในช่วงนี้ ให้พวกเราได้รับทราบกันนะคะ หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆผู้อ่าน “ลงทุนมัม” ทุกท่านค่ะ 🙂

.

.

ช่วยกันกดไลค์หรือคอมเมนต์เป็นกำลังใจให้ลงทุนมัมกันด้วยนะคะ และอย่าลืมกด See First เพื่อไม่ให้พลาดข้อมูลดีๆจากลงทุนมัมค่ะ

.

++ ชอบอ่านบทความดีๆ เกี่ยวกับลูกๆและ การศึกษาของลูก กดติดตามได้ที่ ++

FB: http://www.facebook.com/longtunmom/

Page: https://www.longtunmom.com

#ลงทุนมัม #longtunmom #โรงเรียนนานาชาติ #โรงเรียนอินเตอร์ #InternationalSchool #ลงทุนมัมชวนคุย #InterviewWithLongtunmom #OnlineLearning #เรียนออนไลน์