โรงเรียนเล็ก VS โรงเรียนใหญ่ เลือกแบบไหนถึงจะเหมาะกับลูกที่สุด!
โรงเรียนนานาชาติ A ค่าเทอมเกือบ 1 ล้านบาทต่อปี ในขณะที่โรงเรียนนานาชาติ B ซึ่งใช้หลักสูตร British เหมือนกัน แต่ค่าเทอมอยู่ที่ประมาณ 6 แสนกว่าบาทต่อปี
อะไรที่ทำให้ค่าเทอมต่างกันหลักหลายแสน? แล้วเราควรเลือกโรงเรียนไหนดี?
คำถามเหล่านี้เป็นคำถามที่ “ลงทุนมัม” ได้รับบ่อยมาก ไม่ว่าจะจากผู้ปกครองที่มาปรึกษาแบบส่วนตัว (Private Consult) หรือพ่อแม่ที่เรียนกับเราในคอร์ส **Smart School Selection**
ความจริงคือ โรงเรียนแต่ละแห่งมีจุดเด่นและรายละเอียดเฉพาะตัวที่แตกต่างกัน และค่าเทอมที่สูงลิ่วก็ไม่ได้การันตีว่าโรงเรียนนั้นจะเหมาะกับลูกของทุกครอบครัวเสมอไป
การเลือกโรงเรียนให้ลูกเป็นเรื่องที่ต้องพิจารณาหลายปัจจัย และหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อค่าเล่าเรียนก็คือ “ขนาดของโรงเรียน”
ขนาดของโรงเรียนที่พูดถึงนี้ไม่ได้หมายถึงแค่ “ขนาดพื้นที่ของโรงเรียน” เท่านั้น แต่ยังรวมถึง “ขนาดจำนวนนักเรียน” ในโรงเรียนด้วย ซึ่งทั้งสองปัจจัยนี้มีผลต่อการตัดสินใจเลือกโรงเรียนอย่างมาก
ทั้งสองปัจจัยนี้ส่งผลต่อการเลือกโรงเรียนอย่างไร? มาดูกันค่ะ 😊
1. ขนาดพื้นที่ของโรงเรียน
ถือเป็นหนึ่งสิ่งสำคัญที่ส่งผลต่อการเรียนรู้และกิจกรรมของเด็กๆ โรงเรียนนานาชาติหลายแห่งในปัจจุบันมีพื้นที่กว้างขวาง บางแห่งมีพื้นที่มากถึงหลายสิบไร่ หรือมากกว่า 100 ไร่ ซึ่งพื้นที่ขนาดใหญ่นี้ช่วยให้โรงเรียนสามารถจัดสรรพื้นที่สำหรับกิจกรรมต่างๆ ได้อย่างเต็มที่
ตัวอย่างเช่น สนามกีฬา สระว่ายน้ำ สนามฟุตบอล สนามเทนนิส หรือแม้แต่ทะเลสาบสำหรับกิจกรรมทางน้ำ นอกจากนี้ยังมี Concert Hall และพื้นที่สำหรับกิจกรรมพิเศษอื่นๆ อีกมากมาย ที่สำคัญคือ แต่ละกิจกรรมไม่ได้มีเพียงแค่ 1 สนาม แต่มีเพียงพอให้เด็กๆ ได้ทำกิจกรรมหลากหลายอย่างจุใจหลังเลิกเรียน
ลองนึกภาพดูว่า หลังเลิกเรียน ลูกของคุณสามารถเลือกทำกิจกรรมต่างๆ เช่น ตีเทนนิส เล่นบาส ซ้อมการแสดง หรือแล่นเรือใบ โดยไม่ต้องออกไปเรียนพิเศษข้างนอก นี่คือข้อดีของโรงเรียนที่มีพื้นที่กว้างขวาง ซึ่งช่วยสนับสนุนการพัฒนาทักษะรอบด้านของเด็กๆ ได้อย่างเต็มที่
2. จำนวนนักเรียนในโรงเรียน
นอกจากเรื่องพื้นที่แล้ว “จำนวนนักเรียน” ก็เป็นอีกปัจจัยที่กำหนดว่าโรงเรียนจะเป็นโรงเรียนเล็กหรือใหญ่ ปัจจุบันโรงเรียนนานาชาติที่มีนักเรียนหลักพันคนขึ้นไปถือว่าเป็นโรงเรียนขนาดใหญ่ บางแห่งมีนักเรียนเกือบ 2,000 คนเลยทีเดียว
เมื่อจำนวนนักเรียนมากขึ้น โรงเรียนก็ควรมีพื้นที่ที่เพียงพอ รวมถึงสิ่งอำนวยความสะดวก (Facilities) และบุคลากรที่มากขึ้นตามไปด้วย สิ่งเหล่านี้ช่วยให้โรงเรียนสามารถจัดการเรียนการสอนที่หลากหลาย และเปิดโอกาสให้เด็กๆ มีตัวเลือกวิชาเรียนหรือกิจกรรมที่ตรงความสนใจได้มากขึ้นค่ะ
อ่านมาถึงตรงนี้ หลายคนอาจคิดว่าโรงเรียนใหญ่ดูมีข้อดีไปหมด แล้ว “ลงทุนมัม” เชียร์ให้เลือกโรงเรียนใหญ่ใช่ไหม?
ไม่เสมอไปค่ะ เพราะโรงเรียนขนาดเล็กหรือขนาดกลางก็มีจุดเด่นที่โรงเรียนใหญ่ทำไม่ได้ เช่น ความใกล้ชิดและความอบอุ่นในสังคมโรงเรียน เด็กๆ จะได้อยู่ในบรรยากาศที่ทุกคนรู้จักกัน ไม่ว่าจะเป็นคุณครู ผู้ปกครอง หรือเจ้าหน้าที่ในโรงเรียน ซึ่งช่วยให้เด็กๆ รู้สึกปลอดภัยและสบายใจ
หลายครอบครัวอยากให้โรงเรียนเป็นเหมือนบ้านหลังที่สองของลูก ที่เต็มไปด้วยความอบอุ่นและใกล้ชิด เพื่อให้ลูกไปโรงเรียนด้วยความรู้สึกปลอดภัยและสบายใจ ซึ่งจะช่วยให้การเรียนรู้มีประสิทธิภาพมากที่สุด
ดังนั้น การเลือกโรงเรียนที่เหมาะกับลูกและคุ้มค่ากับค่าเล่าเรียนที่ต้องจ่าย เป็นเรื่องที่พ่อแม่ควรศึกษาและทำความเข้าใจให้ดี อย่าเลือกเพียงเพราะข้อมูลผิวเผินหรือทำตามคนอื่น แต่ควรพิจารณาให้เหมาะกับความต้องการของลูกและครอบครัว
หากใครอยากรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับความแตกต่างระหว่างโรงเรียนเล็กและโรงเรียนใหญ่ สามารถตามไปฟังที่ ลงทุนมัม เคยเล่าเอาไว้ได้ที่นี่เลยค่ะ 😊
==============
คลาส Online “Smart School Selction” จากลงทุนมัม
คลาสที่ออกแบบมาเพื่อช่วยพ่อแม่มือใหม่ที่กำลังเริ่มต้นมองหาโรงเรียนอินเตอร์ให้กับลูก ไม่รู้ว่าควรจะเริ่มต้นอย่างไร และไม่อยากเสียเวลาหาข้อมูลเยอะๆจนปวดหัว
สามารถเริ่มเรียนได้ทันที
เรียนจบแล้วสามารถเลือกโรงเรียนที่ตรงใจได้แบบไม่ปวดหัว
สนใจทักแอดมิน https://lin.ee/y6GmAGp
=============
ติดตามทุกความเคลื่อนไหวของ ลงทุนมัม ได้ที่
FB: http://www.facebook.com/longtunmom/
Page: https://www.longtunmom.com
Youtube: https://www.youtube.com/channel/UCtmKu2CuSFh8-5UQZORg80Q