fbpx

มีลูก 1 คนต้องเตรียมเงินเท่าไหร่?: สำหรับพ่อแม่แล้ว การมีลูก 1 คน นั้นถือเป็นการลงทุนอย่างหนึ่ง ซึ่งผลตอบแทนที่ได้จากการลงทุนในครั้งนี้ อาจจะไม่ได้มาในรูปของตัวเงินตอบแทน แต่ได้มาเป็น ผลแห่งความภาคภูมิใจของพ่อแม่ที่สามารถดูแลลูกจนเติบโตขึ้นมาใช้ชีวิตอย่างมีความสุขและสร้างประโยชน์ให้กับสังคมได้

ในการลงทุนครั้งนี้ นอกเหนือจาก ที่พ่อแม่จะต้องทุ่มเทลงทุน ในเรื่องของ ความรู้และ เวลา อย่างที่เพื่อนๆ แฟนเพจ ลงทุนมัม กำลังลงทุนด้านนี้ให้กับลูกๆกันอย่างเต็มที่เหมือนกับพวกเราแล้ว ยังมีอีกหนึ่งการลงทุนเกี่ยวกับลูก ที่เป็นการลงทุนที่สำคัญ และ เริ่มมาตั้งแต่เราเริ่มรู้ว่าเราตั้งครรภ์ นั่นก็คือ การลงทุนในส่วนของตัวเงิน ซึ่งถือว่าเป็นการลงทุนหลักที่ทุกบ้านต้องทำกันอย่างแน่นอน

“ลงทุนมัม” เลยอยากจะหยิบยกข้อมูลเหล่านี้มานำเสนอ เมื่อแต่ละครอบครัวรู้และสามารถประเมินค่าใช้จ่ายในการมีลูกของตนเองได้แล้วนั้นก็จะทำให้สามารถปรับแผน รูปแบบการใช้เงินและออมเงินให้เหมาะกับสถานการณ์ และเลี้ยงลูกได้อย่างมีความสุขค่ะ

ค่าใช้จ่ายหลัก VS ค่าใช้จ่ายเสริม

ค่าใช้จ่ายหลัก คือ ค่าใช้จ่ายก้อนใหญ่ๆ หลักๆที่จำเป็นสำหรับลูกที่ทุกบ้านจำเป็นต้องมี และ ค่าใช้จ่ายเสริม จะเป็นพวกค่าใช้จ่ายที่เพิ่มเติมเข้ามา ตรงนี้ บางคนอาจจะมี บางคนอาจจะไม่มี ซึ่งจริงๆแล้ว ค่าใช้จ่ายในแต่ละส่วนของแต่ละบ้านอาจแตกต่างกันมาก ขึ้นอยู่กับ lifestyle ของแต่ละบ้านค่ะ

ค่าใช้จ่ายหลักมีอะไรบ้าง?

ค่าใช้จ่ายหลัก หากแบ่งตามช่วงวัย จะสามารถแบ่งได้ดังนี้

  1. ค่าใช้จ่ายช่วงตั้งครรภ์และคลอด

1.1. ค่าฝากครรภ์

ในช่วงฝากครรภ์ ปกติคุณหมอจะนัดตรวจทุกเดือน ตั้งแต่ประมาณ 3 เดือนขึ้นไป ตั้งแต่ฝากครรภ์ไปจนถึงตอนคลอด ก็จะต้องไปหาหมออยู่ประมาณ​ 8-10 ครั้ง ซึ่งค่าใช้จ่ายรวมแล้วก็จะอยู่ที่ประมาณ 4,000 -40,000 บาท ขึ้นอยู่กับว่า เราเลือกไปฝากครรภ์ที่โรงพยาบาลรัฐ หรือ โรงพยาบาลเอกชน

1.2 แพคเกจคลอด 

ราคาของแพคเกจคลอดนั้น แตกต่างกันไปตามวิธีการคลอดว่า คลอดธรรมชาติ หรือ ผ่าคลอด และ คลอดที่โรงพยาบาลรัฐ หรือ โรงพยาบาลเอกชน

หากเป็นการคลอดธรรมชาติ จะมีค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 6,000 – 100,000 บาท

หากเป็นการผ่าคลอด จะมีค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 40,000- 130,000 บาท

  1. ค่าใช้จ่ายของเด็กเล็ก ก่อนเข้าโรงเรียน

ค่าใช้จ่ายส่วนนี้ค่อนข้างขึ้นอยู่กับแต่ละครอบครัวเลยค่ะ เพราะบางบ้าน เลี้ยงด้วยนมแม่ บางบ้างเลี้ยงด้วยนมผง แล้วก็ยังมีพวกค่า วัคซีน ค่าผ้าอ้อม ค่าของใช้เด็ก รวมไปถึง พี่เลี้ยงเด็กด้วย ซึ่ง ก็จะมีค่าใช้จ่ายตั้งแต่ประมาณ​ 3,000 ไปจนถึง 30,000 ต่อเดือนค่ะ

  1. ค่าใช้จ่ายของเด็กวัยเรียน ตั้งแต่ระดับอนุบาลไปจนถึงมัธยมปลาย

ค่าใช้จ่ายส่วนนี้ ก็จะถือเป็นค่าใช้จ่ายก้อนใหญ่ที่เราควรจะต้องเตรียมเอาไว้ให้ลูกตั้งแต่เนิ่นๆเลยค่ะ เหมือนอย่างที่ ลงทุนมัม เคยรีวิและ ประเมินค่าใช้จ่าย ของโรงเรียนต่างๆกันไปมากมายหลากหลายโรงเรียนนะคะ ค่าใช้จ่ายส่วนนี้ก็จะแตกต่างกันไปตามประเภทของโรงเรียนด้วย

          – หากเข้าศึกษาในสถาบันการศึกษาของรัฐบาล จะมีค่าใช้จ่ายประมาณ 1.6 ล้านบาท

          – หากเลือกศึกษาในสถาบันการศึกษาของเอกชนค่าใช้จ่ายที่ผู้ปกครองต้องรับผิดชอบจะอยู่ที่ประมาณ 4 ล้านบาท

(ข้อมูลธนาคารแห่งประเทศไทย ประเมินค่าใช้จ่ายทางการศึกษาสำหรับเด็กวัยเรียน ตั้งแต่ระดับอนุบาลถึงระดับปริญญาตรี)

  • หากเลือกเรียนในโรงเรียนหลักสูตร English Program/ Bilingual School ค่าใช้จ่ายจะอยู่ประมาณ​ 1 ล้าน ไปจนถึงประมาณ​ 5 ล้านกว่าๆ แล้วแต่โรงเรียน
  • หากเลือกเรียนในโรงเรียนนานาชาติ ค่าเล่าเรียนตลอดตั้งแต่ อนุบาลไปจนจบมัธยมปลาย ก็จะอยู่ที่ตั้งแต่ประมาณ 3.5 ล้าน ไปถึง 18 ล้าน 
  1. ค่าใช้จ่ายของการเรียนในระดับมหาวิทยาลัย

สำหรับการเรียนในระดับมหาวิทยาลัยนั้นตัวเลือกค่อนข้างหลากหลาย โดยเราจะยกตัวอย่าง การเรียนระดับมหาวิทยาลัยในหลักสูตรนานาชาติ หรือ อัตราค่าเล่าเรียนของมหาวิทยาลัยในต่างประเทศเป็นหลักค่ะ

ค่าเล่าเรียนสำหรับ Top U ในอเมริกา จะอยู่ที่ประมาณ 1.6 ล้าน – 2 ล้านต่อปี ( รวม 4 ปี = 6.5 ล้านบาท – 8ล้านบาท) ยังไม่รวมค่าที่พัก

ค่าเล่าเรียนสำหรับ Top U ในอังกฤษ จะอยู่ที่ประมาณ 900,000- 2.5 ล้านต่อปี (รวม 3 ปี = 2.7 ล้านบาท – 7.5 ล้านบาท) ยังไม่รวมค่าที่พัก

หากเป็นค่าเล่าเรียนของมหาวิทยาลัยในประเทศไทย 

ถ้า มหาวิทยาลัยในประเทศไทย

  • BBA Chula อัตราค่าเล่าเรียนอยู่ที่ 251,250 ต่อปี ( รวม 4 ปี = 1ล้าน)
  • วิศวะ อินเตอร์ จุฬา อัตราค่าเล่าเรียนอยู่ที่ 220,000 ต่อปี ( รวม 4 ปี = 876,000 บาท)
  • AIHM อัตราค่าเล่าเรียน3.5 ปี อยู่ที่ประมาณ 1.4ล้านบาท

ค่าใช้จ่ายเสริมมีอะไรบ้าง?

สำหรับค่าใช้จ่ายเสริม ที่ คุณพ่อ คุณแม่ควรนำมาคำนึงถึง ก็จะมีค่าใช้จ่ายดังต่อไปนี้

  1. ค่าใช้จ่ายสำหรับด้านสุขภาพต่างๆ

1.1 ประกันสุขภาพ

สำหรับประกันสุขภาพนั้น ราคามีหลากหลายขึ้นอยู่กับว่า เราต้องการความคุ้มครองในระดับใด หากเป็นระดับเริ่มต้นก็จะอยู่ที่ประมาณปีละ 10000-30000 บาท หรือ หากต้องการประกันที่ครอบคลุมคุ้มครองทุกการป่วย ค่าเบี้ยประกันจะอยู่ที่ประมาณปีละ 80,000 – 90,000 บาท 

ในด้านของประกันสุขภาพนี่ เบี้ยประกันก็จะแตกต่างกันไปตามอายุของผู้ทำประกัน โดยวัยเล็กๆ ค่าเบี้ยประกันค่อนข้างสูง แต่พอเด็กเริ่มโตขึ้น ป่วยน้อยลง เบี้ยประกันก็จะลดลงค่ะ

1.2 ค่าปรึกษาแพทย์ทางด้านสุขภาพต่างๆ

ค่าใช้จ่ายส่วนนี้ คุณพ่อ คุณแม่อาจจะเตรียมเผื่อไว้สำหรับการจัดฟัน หรือ ปรึกษาแพทย์ในด้านต่างๆ เช่น เรื่องความสูง เรื่องการเข้าสู่วัยรุ่นของลูก เป็นต้น

  1. ค่าเรียนเสริมทักษะ 

สำหรับเด็กเล็กๆ ก็จะมีไปเรียนพวก การพัฒนาทักษะ พัฒนาสมอง ภาษา หรือ พวกแนวกีฬา ออกกำลังกาย จะตกที่ประมาณครั้งละ 1000-1500 บาท อันนี้คือ เรียนตามโรงเรียนเสริมทักษะ ต่างๆนะคะ

พอโตขึ้นมาหน่อย ก็จะมีเรียน ภาษาอังกฤษ ภาษาจีน ดนตรี  กีฬา ซึ่ง ค่าเรียน ก็จะประมาณ 500-1000 บาท ต่อครั้ง

ส่วนหากเป็นคอร์สเรียนออนไลน์ ราคาจะประหยัดกว่า อย่างที่เราเคยแนะนำไป 

เช่น คลาสเรียนออนไลน์ภาษาจีนสำหรับเด็กของ LingoAce ราคาต่อครั้งอยู่ที่ประมาณ 300 กว่าบาทค่ะ

  1. ค่าอุปกรณ์การเรียนและ อุปกรณ์อิเลคโทรนิคต่างๆ

มือถือ tablet computer สำหรับให้ลูกใช้ ยิ่งเดี๋ยวนี้ เรียนออนไลน์กันเยอะ อันนี้กลายเป็นของต้องมีสำหรับทุกบ้านไปแล้ว อุปกรณ์คอมพิวเตอร์เหล่านี้ หลายๆบ้าน คงรู้ราคากันดีแล้ว เพราะช่วงนี้เรียนออนไลน์กัน คงต้องใช้กันเยอะเลยนะคะ ราคาก็จะอยู่ตั้งแต่ประมาณ 10000-50000 บาท

ถ้าเด็กโตหน่อย อาจจะมี มือถือเป็นของตัวเอง อันนั้นก็จะเพิ่มไปอีกนะคะ

  1. ค่าท่องเที่ยวหรือพาลูกไปเปิดประสบการณ์ใหม่ๆ

ค่าใช้จ่ายตรงส่วนนี้ หากใครวางแผนให้ลูกได้ไปเปิดรับประสบการณ์ใหม่ๆที่ต่างประเทศ อย่างการไปเรียนภาคฤดูร้อน ก็วางแผนเงินส่วนนี้ไว้ก่อนได้ค่ะ

ค่าใช้จ่ายไปเรียนภาคฤดูร้อนที่ประเทศอังกฤษ 1 เดือน อยู่ที่ประมาณ 200,000 บาท

ค่าใช้จ่ายไปเรียนภาคฤดูร้อนที่ประเทศอเมริกา 1 เดือน อยู่ที่ประมาณ 250,000 บาท

ค่าใช้จ่ายไปเรียนภาคฤดูร้อนที่ประเทศสิงคโปร์ 1 เดือน อยู่ที่ประมาณ 120,000 บาท

  1. บางคนก็มีการใช้จ่ายเพิ่มเติม สำหรับ บ้าน หรือ คอนโด ใกล้ๆโรงเรียนลูก เพราะ ใกล้บ้านที่อยู่ไม่มีโรงเรียนที่ถูกใจ และก็ไม่อยากให้ลูกเสียเวลาไปกับการเดินทางบนถนนเยอะเกินไป

“ลงทุนมัม” มีตัวอย่าง การประเมินค่าใช้จ่ายเบื้องต้นสำหรับลูก 1 คน ที่ คุณพ่อ คุณแม่ต้องการส่งลูกเรียนโรงเรียนนานาชาติแล้วไปเรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัยที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ใน ลงทุนมัมไลฟ์ ซีรีย์ เป็นพ่อแม่ต้องลงทุน Session “มีลูก 1 คนต้องเตรียมเงินเท่าไหร่?” ซึ่งเพื่อนๆสามารถติดตามรายละเอียดได้ในคลิปข้างล่างนี้เลยค่ะ

สำหรับเพื่อนๆที่ต้องการตารางการคำนวณที่ “ลงทุนมัม” ใช้ สามารถทักเข้ามาขอไฟล์กับพวกเราได้ที่ Line Official Account ของ ลงทุนมัมที่ @longtunmom นะคะ

จริงๆ แล้วการมีลูก 1 คน ก็ถือว่า สิ่งที่ยิ่งใหญ่สำหรับครอบครัว เพราะ นอกจาก ลูกๆจะนำมาซึ่งความสุขของทุกคนในบ้านแล้ว ยังมาพร้อมกับความรับผิดชอบในหลายๆด้านของพ่อแม่ ด้วย

บทความนี้ “ลงทุนมัม” อยากจะเอามาให้เป็นไอเดียกับเพื่อนๆที่กำลังแพลนจะมีลูก หรือ พึ่งมีลูก ได้วางแผนกันต่อไป ถึงการจัดการทางการเงินที่เหมาะสมกับ lifestyle ของแต่ละบ้านนะคะ

========================

ติดตามเราในช่องทางต่างๆ ได้ที่

👉 Website: https://www.longtunmom.com

👉 FB: http://www.facebook.com/longtunmom/

👉 Youtube: https://www.youtube.com/longtunmom

👉 Line Official: @longtunmom

========================