มีลูก 1 คนต้องเตรียมเงินเท่าไหร่?: สำหรับพ่อแม่แล้ว การมีลูก 1 คน นั้นถือเป็นการลงทุนอย่างหนึ่ง ซึ่งผลตอบแทนที่ได้จากการลงทุนในครั้งนี้ อาจจะไม่ได้มาในรูปของตัวเงินตอบแทน แต่ได้มาเป็น ผลแห่งความภาคภูมิใจของพ่อแม่ที่สามารถดูแลลูกจนเติบโตขึ้นมาใช้ชีวิตอย่างมีความสุขและสร้างประโยชน์ให้กับสังคมได้
ในการลงทุนครั้งนี้ นอกเหนือจาก ที่พ่อแม่จะต้องทุ่มเทลงทุน ในเรื่องของ ความรู้และ เวลา อย่างที่เพื่อนๆ แฟนเพจ ลงทุนมัม กำลังลงทุนด้านนี้ให้กับลูกๆกันอย่างเต็มที่เหมือนกับพวกเราแล้ว ยังมีอีกหนึ่งการลงทุนเกี่ยวกับลูก ที่เป็นการลงทุนที่สำคัญ และ เริ่มมาตั้งแต่เราเริ่มรู้ว่าเราตั้งครรภ์ นั่นก็คือ การลงทุนในส่วนของตัวเงิน ซึ่งถือว่าเป็นการลงทุนหลักที่ทุกบ้านต้องทำกันอย่างแน่นอน
“ลงทุนมัม” เลยอยากจะหยิบยกข้อมูลเหล่านี้มานำเสนอ เมื่อแต่ละครอบครัวรู้และสามารถประเมินค่าใช้จ่ายในการมีลูกของตนเองได้แล้วนั้นก็จะทำให้สามารถปรับแผน รูปแบบการใช้เงินและออมเงินให้เหมาะกับสถานการณ์ และเลี้ยงลูกได้อย่างมีความสุขค่ะ
ค่าใช้จ่ายหลัก VS ค่าใช้จ่ายเสริม
ค่าใช้จ่ายหลัก คือ ค่าใช้จ่ายก้อนใหญ่ๆ หลักๆที่จำเป็นสำหรับลูกที่ทุกบ้านจำเป็นต้องมี และ ค่าใช้จ่ายเสริม จะเป็นพวกค่าใช้จ่ายที่เพิ่มเติมเข้ามา ตรงนี้ บางคนอาจจะมี บางคนอาจจะไม่มี ซึ่งจริงๆแล้ว ค่าใช้จ่ายในแต่ละส่วนของแต่ละบ้านอาจแตกต่างกันมาก ขึ้นอยู่กับ lifestyle ของแต่ละบ้านค่ะ
ค่าใช้จ่ายหลักมีอะไรบ้าง?
ค่าใช้จ่ายหลัก หากแบ่งตามช่วงวัย จะสามารถแบ่งได้ดังนี้
- ค่าใช้จ่ายช่วงตั้งครรภ์และคลอด
1.1. ค่าฝากครรภ์
ในช่วงฝากครรภ์ ปกติคุณหมอจะนัดตรวจทุกเดือน ตั้งแต่ประมาณ 3 เดือนขึ้นไป ตั้งแต่ฝากครรภ์ไปจนถึงตอนคลอด ก็จะต้องไปหาหมออยู่ประมาณ 8-10 ครั้ง ซึ่งค่าใช้จ่ายรวมแล้วก็จะอยู่ที่ประมาณ 4,000 -40,000 บาท ขึ้นอยู่กับว่า เราเลือกไปฝากครรภ์ที่โรงพยาบาลรัฐ หรือ โรงพยาบาลเอกชน
1.2 แพคเกจคลอด
ราคาของแพคเกจคลอดนั้น แตกต่างกันไปตามวิธีการคลอดว่า คลอดธรรมชาติ หรือ ผ่าคลอด และ คลอดที่โรงพยาบาลรัฐ หรือ โรงพยาบาลเอกชน
หากเป็นการคลอดธรรมชาติ จะมีค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 6,000 – 100,000 บาท
หากเป็นการผ่าคลอด จะมีค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 40,000- 130,000 บาท
- ค่าใช้จ่ายของเด็กเล็ก ก่อนเข้าโรงเรียน
ค่าใช้จ่ายส่วนนี้ค่อนข้างขึ้นอยู่กับแต่ละครอบครัวเลยค่ะ เพราะบางบ้าน เลี้ยงด้วยนมแม่ บางบ้างเลี้ยงด้วยนมผง แล้วก็ยังมีพวกค่า วัคซีน ค่าผ้าอ้อม ค่าของใช้เด็ก รวมไปถึง พี่เลี้ยงเด็กด้วย ซึ่ง ก็จะมีค่าใช้จ่ายตั้งแต่ประมาณ 3,000 ไปจนถึง 30,000 ต่อเดือนค่ะ
- ค่าใช้จ่ายของเด็กวัยเรียน ตั้งแต่ระดับอนุบาลไปจนถึงมัธยมปลาย
ค่าใช้จ่ายส่วนนี้ ก็จะถือเป็นค่าใช้จ่ายก้อนใหญ่ที่เราควรจะต้องเตรียมเอาไว้ให้ลูกตั้งแต่เนิ่นๆเลยค่ะ เหมือนอย่างที่ ลงทุนมัม เคยรีวิและ ประเมินค่าใช้จ่าย ของโรงเรียนต่างๆกันไปมากมายหลากหลายโรงเรียนนะคะ ค่าใช้จ่ายส่วนนี้ก็จะแตกต่างกันไปตามประเภทของโรงเรียนด้วย
– หากเข้าศึกษาในสถาบันการศึกษาของรัฐบาล จะมีค่าใช้จ่ายประมาณ 1.6 ล้านบาท
– หากเลือกศึกษาในสถาบันการศึกษาของเอกชนค่าใช้จ่ายที่ผู้ปกครองต้องรับผิดชอบจะอยู่ที่ประมาณ 4 ล้านบาท
(ข้อมูลธนาคารแห่งประเทศไทย ประเมินค่าใช้จ่ายทางการศึกษาสำหรับเด็กวัยเรียน ตั้งแต่ระดับอนุบาลถึงระดับปริญญาตรี)
- หากเลือกเรียนในโรงเรียนหลักสูตร English Program/ Bilingual School ค่าใช้จ่ายจะอยู่ประมาณ 1 ล้าน ไปจนถึงประมาณ 5 ล้านกว่าๆ แล้วแต่โรงเรียน
- หากเลือกเรียนในโรงเรียนนานาชาติ ค่าเล่าเรียนตลอดตั้งแต่ อนุบาลไปจนจบมัธยมปลาย ก็จะอยู่ที่ตั้งแต่ประมาณ 3.5 ล้าน ไปถึง 18 ล้าน
- ค่าใช้จ่ายของการเรียนในระดับมหาวิทยาลัย
สำหรับการเรียนในระดับมหาวิทยาลัยนั้นตัวเลือกค่อนข้างหลากหลาย โดยเราจะยกตัวอย่าง การเรียนระดับมหาวิทยาลัยในหลักสูตรนานาชาติ หรือ อัตราค่าเล่าเรียนของมหาวิทยาลัยในต่างประเทศเป็นหลักค่ะ
ค่าเล่าเรียนสำหรับ Top U ในอเมริกา จะอยู่ที่ประมาณ 1.6 ล้าน – 2 ล้านต่อปี ( รวม 4 ปี = 6.5 ล้านบาท – 8ล้านบาท) ยังไม่รวมค่าที่พัก
ค่าเล่าเรียนสำหรับ Top U ในอังกฤษ จะอยู่ที่ประมาณ 900,000- 2.5 ล้านต่อปี (รวม 3 ปี = 2.7 ล้านบาท – 7.5 ล้านบาท) ยังไม่รวมค่าที่พัก
หากเป็นค่าเล่าเรียนของมหาวิทยาลัยในประเทศไทย
ถ้า มหาวิทยาลัยในประเทศไทย
- BBA Chula อัตราค่าเล่าเรียนอยู่ที่ 251,250 ต่อปี ( รวม 4 ปี = 1ล้าน)
- วิศวะ อินเตอร์ จุฬา อัตราค่าเล่าเรียนอยู่ที่ 220,000 ต่อปี ( รวม 4 ปี = 876,000 บาท)
- AIHM อัตราค่าเล่าเรียน3.5 ปี อยู่ที่ประมาณ 1.4ล้านบาท
ค่าใช้จ่ายเสริมมีอะไรบ้าง?
สำหรับค่าใช้จ่ายเสริม ที่ คุณพ่อ คุณแม่ควรนำมาคำนึงถึง ก็จะมีค่าใช้จ่ายดังต่อไปนี้
- ค่าใช้จ่ายสำหรับด้านสุขภาพต่างๆ
1.1 ประกันสุขภาพ
สำหรับประกันสุขภาพนั้น ราคามีหลากหลายขึ้นอยู่กับว่า เราต้องการความคุ้มครองในระดับใด หากเป็นระดับเริ่มต้นก็จะอยู่ที่ประมาณปีละ 10000-30000 บาท หรือ หากต้องการประกันที่ครอบคลุมคุ้มครองทุกการป่วย ค่าเบี้ยประกันจะอยู่ที่ประมาณปีละ 80,000 – 90,000 บาท
ในด้านของประกันสุขภาพนี่ เบี้ยประกันก็จะแตกต่างกันไปตามอายุของผู้ทำประกัน โดยวัยเล็กๆ ค่าเบี้ยประกันค่อนข้างสูง แต่พอเด็กเริ่มโตขึ้น ป่วยน้อยลง เบี้ยประกันก็จะลดลงค่ะ
1.2 ค่าปรึกษาแพทย์ทางด้านสุขภาพต่างๆ
ค่าใช้จ่ายส่วนนี้ คุณพ่อ คุณแม่อาจจะเตรียมเผื่อไว้สำหรับการจัดฟัน หรือ ปรึกษาแพทย์ในด้านต่างๆ เช่น เรื่องความสูง เรื่องการเข้าสู่วัยรุ่นของลูก เป็นต้น
- ค่าเรียนเสริมทักษะ
สำหรับเด็กเล็กๆ ก็จะมีไปเรียนพวก การพัฒนาทักษะ พัฒนาสมอง ภาษา หรือ พวกแนวกีฬา ออกกำลังกาย จะตกที่ประมาณครั้งละ 1000-1500 บาท อันนี้คือ เรียนตามโรงเรียนเสริมทักษะ ต่างๆนะคะ
พอโตขึ้นมาหน่อย ก็จะมีเรียน ภาษาอังกฤษ ภาษาจีน ดนตรี กีฬา ซึ่ง ค่าเรียน ก็จะประมาณ 500-1000 บาท ต่อครั้ง
ส่วนหากเป็นคอร์สเรียนออนไลน์ ราคาจะประหยัดกว่า อย่างที่เราเคยแนะนำไป
เช่น คลาสเรียนออนไลน์ภาษาจีนสำหรับเด็กของ LingoAce ราคาต่อครั้งอยู่ที่ประมาณ 300 กว่าบาทค่ะ
- ค่าอุปกรณ์การเรียนและ อุปกรณ์อิเลคโทรนิคต่างๆ
มือถือ tablet computer สำหรับให้ลูกใช้ ยิ่งเดี๋ยวนี้ เรียนออนไลน์กันเยอะ อันนี้กลายเป็นของต้องมีสำหรับทุกบ้านไปแล้ว อุปกรณ์คอมพิวเตอร์เหล่านี้ หลายๆบ้าน คงรู้ราคากันดีแล้ว เพราะช่วงนี้เรียนออนไลน์กัน คงต้องใช้กันเยอะเลยนะคะ ราคาก็จะอยู่ตั้งแต่ประมาณ 10000-50000 บาท
ถ้าเด็กโตหน่อย อาจจะมี มือถือเป็นของตัวเอง อันนั้นก็จะเพิ่มไปอีกนะคะ
- ค่าท่องเที่ยวหรือพาลูกไปเปิดประสบการณ์ใหม่ๆ
ค่าใช้จ่ายตรงส่วนนี้ หากใครวางแผนให้ลูกได้ไปเปิดรับประสบการณ์ใหม่ๆที่ต่างประเทศ อย่างการไปเรียนภาคฤดูร้อน ก็วางแผนเงินส่วนนี้ไว้ก่อนได้ค่ะ
ค่าใช้จ่ายไปเรียนภาคฤดูร้อนที่ประเทศอังกฤษ 1 เดือน อยู่ที่ประมาณ 200,000 บาท
ค่าใช้จ่ายไปเรียนภาคฤดูร้อนที่ประเทศอเมริกา 1 เดือน อยู่ที่ประมาณ 250,000 บาท
ค่าใช้จ่ายไปเรียนภาคฤดูร้อนที่ประเทศสิงคโปร์ 1 เดือน อยู่ที่ประมาณ 120,000 บาท
- บางคนก็มีการใช้จ่ายเพิ่มเติม สำหรับ บ้าน หรือ คอนโด ใกล้ๆโรงเรียนลูก เพราะ ใกล้บ้านที่อยู่ไม่มีโรงเรียนที่ถูกใจ และก็ไม่อยากให้ลูกเสียเวลาไปกับการเดินทางบนถนนเยอะเกินไป
“ลงทุนมัม” มีตัวอย่าง การประเมินค่าใช้จ่ายเบื้องต้นสำหรับลูก 1 คน ที่ คุณพ่อ คุณแม่ต้องการส่งลูกเรียนโรงเรียนนานาชาติแล้วไปเรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัยที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ใน ลงทุนมัมไลฟ์ ซีรีย์ เป็นพ่อแม่ต้องลงทุน Session “มีลูก 1 คนต้องเตรียมเงินเท่าไหร่?” ซึ่งเพื่อนๆสามารถติดตามรายละเอียดได้ในคลิปข้างล่างนี้เลยค่ะ
สำหรับเพื่อนๆที่ต้องการตารางการคำนวณที่ “ลงทุนมัม” ใช้ สามารถทักเข้ามาขอไฟล์กับพวกเราได้ที่ Line Official Account ของ ลงทุนมัมที่ @longtunmom นะคะ
จริงๆ แล้วการมีลูก 1 คน ก็ถือว่า สิ่งที่ยิ่งใหญ่สำหรับครอบครัว เพราะ นอกจาก ลูกๆจะนำมาซึ่งความสุขของทุกคนในบ้านแล้ว ยังมาพร้อมกับความรับผิดชอบในหลายๆด้านของพ่อแม่ ด้วย
บทความนี้ “ลงทุนมัม” อยากจะเอามาให้เป็นไอเดียกับเพื่อนๆที่กำลังแพลนจะมีลูก หรือ พึ่งมีลูก ได้วางแผนกันต่อไป ถึงการจัดการทางการเงินที่เหมาะสมกับ lifestyle ของแต่ละบ้านนะคะ
========================
ติดตามเราในช่องทางต่างๆ ได้ที่
👉 Website: https://www.longtunmom.com
👉 FB: http://www.facebook.com/longtunmom/
👉 Youtube: https://www.youtube.com/longtunmom
👉 Line Official: @longtunmom
========================