fbpx

วันนี้ “ลงทุนมัม” จะมาเล่าถึงหลักสูตรของโรงเรียนนานาชาติอีกหลักสูตร ที่เป็นที่นิยมกันมากในไทยนั่นก็คือ “หลักสูตรอังกฤษ” หรือ British Curriculum นั่นเองค่ะ

หลักสูตรอังกฤษ ถือเป็นระบบการศึกษาที่มีประวัติศาสตร์มายาวนานที่สุด โดยจะสอนอิงตามกระทรวงศึกษาธิการของอังกฤษ การจัดระดับชั้นนั้นจะใช้วันเกิดของเด็ก โดยใช้วันที่ 31 สิงหาคมเป็นวันกำหนด เพื่อรับนักเรียนเข้าเรียนในภาคเรียนแรกของปีการศึกษา ในเดือนกันยายนของแต่ละปีค่ะ ยกตัวอย่างเช่น ถ้าในระดับ Pre-School โรงเรียนรับนักเรียนตั้งแต่อายุ 3 ขวบ ในปีการศึกษา 2020 นี้ จะต้องเป็นเด็กที่เกิดตั้งแต่ 1 กันยายน 2016 ถึง 31 สิงหาคม 2017 ค่ะ

โดยหลักสูตรอังกฤษนี้แบ่งออกเป็นช่วงการเรียนรู้ออกเป็น 6 Key Stage ดังนี้ 

  • KeyStage0 : ระดับชั้น Nursery – Reception  สำหรับเด็กอายุตั้งแต่ 4-6 ปี
  • KeyStage1 : ระดับชั้น Year 1- Year 2  สำหรับเด็กอายุตั้งแต่ 5-6 ปี 
  • KeyStage2 : ระดับชั้น Year 3- Year 6 สำหรับเด็กอายุตั้งแต่ 7-10 ปี 
  • KeyStage3 : ระดับชั้น Year 7- Year 9 สำหรับเด็กอายุตั้งแต่ 11-13 ปี 
  • KeyStage4 : ระดับชั้น Year 10- Year 11 (IGCSE) สำหรับเด็กอายุตั้งแต่ 14-15 ปี 
  • KeyStage5 : ระดับชั้น Year 12- Year 13 (Sixth Form) สำหรับเด็กอายุตั้งแต่ 16-17 ปี 
British Curriculum

จุดเด่นของหลักสูตรนี้ คือ เน้นการเรียนการสอนควบคู่ไปกับการให้เด็กได้ค้นหาด้วยตัวเอง หรือ Self-Study โดยจะมีวิชาที่เรียนประมาณ 8-9 วิชา (ซึ่งเยอะกว่าหลักสูตรอื่นๆ) ซึ่งจะแบ่งเป็นวิชาบังคับอย่างน้อย 3 วิชา ได้แก่

  • ภาษาอังกฤษ
  • คณิตศาสตร์
  • วิทยาศาสตร์

นอกจากนั้นจะเป็นวิชาเลือก

หลักสูตรนี้ถือว่าการที่เด็กได้เรียนหลากหลายวิชา เป็นการเตรียมความพร้อมทางอาชีพให้เด็ก และเมื่อเด็กได้ลองเรียนหลายๆวิชาแล้ว จะทำให้รู้ว่าชอบและไม่ชอบวิชาอะไร ซึ่งจะเป็นการเตรียมความพร้อมไปสู่ Key Stage ระดับสูงๆต่อไปที่เด็กจะเลือกเรียนแบบเข้มข้นเฉพาะบางรายวิชาเท่านั้นค่ะ 

.

ช่วง Key Stage 4 หรือ ใน Year 10 ถึง Year 11 สองปีนี้จะเรียนตามหลักสูตรมัธยมศึกษาตอนต้น ที่เรียกว่า International General Certificate of Secondary Education (IGCSE) และจะต้องสอบ IGCSE ซึ่งเป็นข้อสอบสากลที่ใช้สอบร่วมกันทั่วโลก เพื่อที่จะจบ Key Stage นี้ค่ะ

.

ถ้าเรียนถึง Year 11 (จบ Key Stage 4) จะถือว่าจบการเรียนในหลักสูตรมัธยมปลายของอังกฤษ แต่ถ้าจะศึกษาต่อในระดับมหาวิทยาลัยในต่างประเทศ จะต้องเรียนต่อใน Key Stage 5 หรือที่เรียกว่า Sixth Form หรือ A-Level โดยจะเหลือเรียนเพียง 3-4 วิชาเท่านั้น ช่วงนี้เด็กจะรู้ว่าตัวเองชอบหรือเก่งอะไรมากที่สุด และก็จะเลือกเรียนโฟกัสเฉพาะวิชาที่จะใช้ในการสมัครเรียนต่อได้ค่ะ เรียกได้ว่าใน Key Stage 5 นี้จะเน้นการเรียน เพื่อให้เด็กสอบเข้ามหาวิทยาลัยในสาขาที่ต้องการโดยเฉพาะเลยค่ะ เพราะฉะนั้น การเลือกเรียนวิชาเฉพาะสำหรับ A-Level นี้ ลูกๆของเราควรจะต้องเช็คดูมหาวิทยาลัยที่อยากเข้าก่อนนะคะ ว่ามี Requirement ว่าจะต้องเรียนวิชาเฉพาะอะไรบ้าง และจะต้องได้เกรดเท่าไหร่ ไม่อย่างนั้นตอนส่งใบสมัครเข้าเรียน อาจจะไม่ตรงกับที่มหาวิทยาลัยต้องการได้ค่ะ  

.

ตัวอย่างโรงเรียนนานาชาติหลักสูตรอังกฤษในประเทศไทย ก็จะมี 

.

โรงเรียนนานาชาติในไทยที่ใช้หลักสูตรอังกฤษนั้น เมื่อถึงระดับ Key Stage 5 มักจะมี Option ให้นักเรียนเลือกว่าจะเลือกเรียน A-Level หรือ จะไปเรียนระบบ IB Diploma ดี ซึ่งอันนี้ก็ขึ้นอยู่กับว่า แม่ๆ อยากให้ลูกไปเรียนต่อระดับมหาวิทยาลัยที่ไหนนะคะ แน่นอนว่า ถ้าอยากเรียนต่อที่ อังกฤษ คงต้องไปทาง A-Level ค่ะ แต่ถ้ายังไม่ชัวร์ IB Diploma อาจจะเป็น Option ที่เปิดกว้างกว่าเวลาเลือกมหาวิทยาลัยนะคะ ลองพิจารณาตรงส่วนนี้กันด้วยค่ะ

.

อ่านบทความอื่นๆเกี่ยวกับหลักสูตรโรงเรียนนานาชาติที่ “ลงทุนมัม” เคยเขียนไว้ได้ที่นี่ค่ะ

หลักสูตรการศึกษาของโรงเรียนนานาชาติ

จุดเด่นของโรงเรียนนานาชาติระบบอังกฤษ ที่คุณพ่อ คุณแม่ควรรู้

IGCSE คืออะไร และ จำเป็นต้องเรียนไหม?

ยังมีโรงเรียนนานาชาติในหลักสูตรอื่นๆ ที่น่าสนใจ วันหลัง “ลงทุนมัม” จะมาเล่าให้ฟังกันต่อ อย่าลืมคอยติดตามกันนะคะ

.

ขอบคุณข้อมูลดีๆจาก International Schools Association Thailand <https://www.isat.or.th/

.

ช่วยกันกดไลค์หรือคอมเมนต์เป็นกำลังใจให้ ”ลงทุนมัม”กันด้วยนะคะ และอย่าลืมกด See First เพื่อไม่ให้พลาดข้อมูลดีๆจาก “ลงทุนมัม” ค่ะ

.

++ ชอบอ่านบทความดีๆ มีสาระพร้อมความบันเทิง กดติดตามได้ที่ ++

FB: http://www.facebook.com/longtunmom/

Page: https://www.longtunmom.com

Youtube: https://www.youtube.com/channel/UCtmKu2CuSFh8-5UQZORg80Q

Line Official: @longtunmom

#ลงทุนมัม #longtunmom #โรงเรียนนานาชาติ #InternationalSchool #โรงเรียนอินเตอร์ #BritishCurriculum #หลักสูตรอังกฤษ