ประสบการณ์การลงทุนแบบแม่ๆกับ Jitta Wealth

Jitta Wealth: ช่วงนี้ลูกเริ่มปิดเทอมกันแล้ว ถึงเวลาที่แม่พอจะมีเวลาหายใจหายคอขึ้นมาบ้าง เลยอยากจะมาเล่าให้ฟังถึงเรื่องที่ Insprired มาจากที่ได้คุยกับ “คุณเผ่า-ตราวุทธิ์ เหลืองสมบูรณ์” CEO และ co-founder ของ

Jitta ในหัวข้อ “ลงทุนให้ลูก ไม่ยากอย่างที่คิด” (ถ้าใครอยากชมคลิปที่ “ลงทุนมัม” ชวนคุณเผ่ามาพูดคุยด้วย สามารถติดตามรับชมย้อนหลังได้ที่นี่เลยค่ะ https://youtu.be/bMJHdqYE0M4)

เราคุยกันในหลายแง่มุม โดยเฉพาะหัวข้อเกี่ยวกับการลงทุนให้ลูก โดยหนึ่งในนั้นก็คือการลงทุนระยะยาว ออมไว้เป็นต้นทุนให้ลูกไว้ใช้ตอนโตกับ Jitta Wealthซึ่งเรามองว่าเป็นทางเลือกหนึ่งที่ตอบโจทย์คุณพ่อคุณแม่ที่ไม่ค่อยมีเวลาติดตามข้อมูลข่าวสารการลงทุน เพราะทาง Jitta Wealthได้นำเทคโนโลยีในการบริหารจัดการกองทุนหุ้นแบบอัตโนมัติมาช่วยในการคัดหุ้นอำนวยความสะดวกสบาย ให้คุณพ่อคุณแม่ที่ไม่ค่อยมีเวลาอย่างเรา สามารถลงทุนระยะยาวอย่างมีหลักการและบริหารปรับพอร์ตให้แบบอัตโนมัติด้วย

บทความนี้ “ลงทุนมัม” จะมารีวิวให้เพื่อนๆได้อ่านกันว่า ถ้าเราอยากลองลงทุนกับทาง Jitta Wealthจะต้องเริ่มต้นอย่างไรบ้าง?

1. เราเริ่มต้นจากการหาข้อมูล โดยเข้าไปที่ Website ของJITTA Wealth (https://jittawealth.com/) แล้วศึกษาว่ากองทุนแบบไหนที่เหมาะกับเป้าหมายการลงทุนของเรา ซึ่ง”ลงทุนมัม”ตั้งใจลงทุนไว้เพื่อการศึกษาของลูก เน้นลงทุนระยะยาว รับความเสี่ยงได้ปานกลางถึงสูง และเริ่มต้นลงทุนที่ 200,000 บาท

2. นโยบายการลงทุนของ JITTA Wealthก็มีหลักๆอยู่ 3 รูปแบบ คือ

a. Global ETF (ความเสี่ยงต่ำ-สูง)

b. Thematic (ความเสี่ยงสูง)

c. Jitta Ranking (ความเสี่ยงสูง-สูงมาก)

กองทุนที่เราสนใจคือ Global ETF ซึ่งมี 3 รูปแบบตามระดับความเสี่ยง เราเลือกแบบ”เติบโต” จะเหมาะกับผู้ที่รับความเสี่ยงได้สูง มีการกระจายความเสี่ยงลงทุนในกองทุน ETF หุ้นและตราสารหนี้คุณภาพดีทั่วโลกโดยที่ไม่ต้องลงทุนหลายกอง

3. ขั้นตอนต่อไป คือ เช็คคุณสมบัติของกองทุน Global ETF ว่าตอบโจทย์กับเป้าหมายเราไหม

a. เงินทุนเริ่มต้น 100,000 บาท

→ ผ่าน เพราะเราตั้งใจลงทุนที่ 200,000 บาท

b. ผลตอบแทนระยะยาวเฉลี่ย 4%-8% ต่อปี

→ รับได้

c. ลงทุนในหุ้น และตราสารหนี้ ผ่านกองทุน ETF ทั่วโลก

→ ชอบ เพราะแนวทางการลงทุนน่าสนใจ ไม่เสี่ยงมาก ตรงกับเป้าหมายการลงทุนของเรา

d. ระยะเวลาที่ควรลงทุนอย่างน้อย 1-3 ปี

→ ผ่าน เหมาะกับผู้เริ่มลงทุนใหม่ๆและอยากทดลองอย่างพวกเรา

e. มีการรีวิวและปรับพอร์ตอัตโนมัติ

→ ชอบมาก เหมาะกับพ่อแม่ที่ไม่ค่อยมีเวลาอย่างพวกเรา

4. เมื่อเลือกกองทุนที่จะลงทุนได้แล้ว นั่นก็คือ Global ETF แบบ”เติบโต” ก็จัดการไปเปิดบัญชีกองทุนส่วนบุคคลกับ Jitta Wealth เลย โดยเริ่มจากการ Download App “Jitta Wealth” ลงบนมือถือ

5. กรอกข้อมูลส่วนตัวและทำแบบทดสอบประเมินความเสี่ยง ซึ่งเปิดบัญชีได้รวดเร็วผ่านทางออนไลน์ไม่เกิน 15 นาทีก็เสร็จเรียบร้อย

6. ขั้นตอนต่อไป คือ โอนเงินลงทุนเข้าพอร์ต ซึ่งสามารถใช้ QR Code ที่ได้รับมาโอนผ่าน Mobile App ของธนาคารได้เลย สะดวกมากๆ

7. หลังจากนี้ก็รอทาง Jitta Wealthคอนเฟิร์มการเปิดพอร์ต และก็ถือว่าเราได้เริ่มลงทุนตามกองทุนที่เลือกเอาไว้เรียบร้อย

อัพเดทพอร์ท (มิถุนายน 2565)

จริงๆต้องบอกว่า กองทุนนี้เราเริ่มลงทุนมาจนถึงตอนนี้ก็ประมาณ 6 เดือน ซึ่งเหมาะกับพ่อแม่ที่ไม่ค่อยมีเวลา และสนใจอยากจะลงทุนระยะยาวโดย ให้เทคโนโลยีมาช่วยจัดการ แบบพวกเรา

การลงทุนระยะยาว นอกจากเราจะต้องเชื่อมั่นในหลักการการลงทุนและแผนการลงทุนที่ให้ AI มาช่วยจัดการบริหารให้เราแล้ว เราจะต้อง รู้จักการรอ และ อดทนรวย ด้วย

เราเริ่มต้นลงทุนในช่วง เดือนมกราคมของปี 2022 กับกองทุน GlobalETF ที่เป็นกองทุนที่ลงทุนในตลาดหุ้นทั่วโลก 80% และ ตราสารหนี้ในสหรัฐอเมริกา 20% ผ่าน ETF

ซึ่งก็ต้องบอกว่า จากช่วงครึ่งปีที่ผ่านมา ที่เราเริ่มลงทุน มาจนถึงตอนนี้ ตลาดหุ้นหลายๆแห่งทั่วโลก ลงมาแทบทุกตลาด อย่างเช่น ตลาด NASDAQ ของอเมริกา -28.94%, NIKKEI ของญี่ปุ่น – 7.28%, KOSPI ประเทศเกาหลี -18.38%, ตลาดหุ้นไทย -1.69% เรียกได้ว่า ผ่านมาประมาณครึ่งปีแทบไม่อยากจะเปิดดูผลการลงทุนกันเลยทีเดียว

แต่อย่างน้อยเราก็พอจะอุ่นใจได้นิดหน่อย เพราะ กองทุนที่เราเลือกเป็นกองทุนที่มีความเสี่ยงไม่สูงมาก เพราะกระจายความเสี่ยง ผ่านการลงทุนในหุ้นและตราสารหนี้ พร้อมปรับพอร์ตอัตโนมัติ

ถึงเวลาแห่งความตื่นเต้นและลุ้นไปพร้อมๆกัน เมื่อผ่านมา 6 เดือน กองทุนที่เราซื้อไว้จะเป็นไปตาม ตลาดหุ้นต่างๆทั่วโลกไหม หรือจะออกมาเป็นอย่างไร?

กองทุน Global ETF ที่ “ลงทุนมัม” เริ่มต้นลงทุนไว้ด้วย เงินลงทุน 200,000 บาท ตอนนี้ผ่านมา 6 เดือน ซึ่งในระหว่างทาง กองทุนมีการปรับพอร์ตอัตโนมัติไปบ้าง โดยปรับพอร์ตด้วย Algorithm ของทาง JITTA WEALTH ให้ตรงกับเงื่อนไขของกองทุน ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงและกระจายความเสี่ยงไปกับการลงทุนทั่วโลก

พอร์ตของเราก็เป็นไปตามคาด ต้านกระแสตลาดทั่วโลกไม่ไหว โดยผลตอบแทน 6 เดือน -13.23% ซึ่งถ้าวิเคราะห์แล้วก็สามารถเข้าใจได้ เพราะตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวลงกันหมด มากบ้าง น้อยบ้าง และกองทุน Global ETF ที่เราเลือกซื้อนั้นก็เป็นการลงทุนในหุ้นถึง 80% ดังนั้นผลการดำเนินงานย้อนหลัง 6 เดือนย่อมเป็นไปตามตลาดทั่วโลก แต่ก็ยังดีที่กองทุนนี้มีการกระจายความเสี่ยงไปยังตราสารหนี้ด้วย จึงทำให้ผลตอบแทนไม่ได้ติดลบมากเหมือนบางตลาดหุ้น

แต่เพราะเราวางแผนการลงทุนระยะยาวอย่างน้อย 1-3 ปี อยู่แล้ว คราวนี้จะอดทนรอ พิสูจน์ และอดทนรวย กันต่อไป