fbpx

ต้องบอกว่า ปี 2566 นี้ผ่านไปเร็วมาก แป๊บๆก็เข้าสู่ Q2 ของปีกันแล้ว 

เมื่อผ่าน Q1 ของปี 2566 ไป ก็ได้เวลามา Recap ถึงพอร์ทการลงทุนที่เราจัดสรรไว้สำหรับการลงทุนระยะยาวเพื่อการศึกษาของลูกกัน  ซึ่งพอร์ทนี้ เราเริ่มลงทุนมาตั้งแต่ เดือน ตุลาคม ปี 2564 เป้าหมายคือออมเงินส่วนหนึ่งไว้เพื่อการศึกษาของลูกในระยะยาว (ประมาณ​ 10 ปีข้างหน้า) 

เราพยายามหาการลงทุนที่เหมาะสมกับ Lifestyle พ่อแม่อย่างเราที่ไม่ได้มีเวลาติดตามพอร์ทการลงทุนบ่อยๆ ซึ่งสมัยนี้มีทางเลือกมากมาย รวมถึงกองทุนที่มีผู้เชี่ยวชาญ​และนำเอาเทคโนโลยีมาช่วยวิเคราะห์

จากที่ลงทุนมัมเคยเล่าไว้ ว่า เราเลือกลงทุนในกองทุน Global ETF ของ Jitta Wealth เพราะเหมาะกับพ่อแม่ที่ไม่ค่อยมีเวลาในการมานั่งเฝ้าจอเลือกการลงทุน ซึ่งกองทุนนี้มี AI ของ Jitta Wealth ช่วย monitor และ ปรับพอร์ทให้เราแบบอัตโนมัติ ตามแผนการลงทุนที่เราได้เลือกไว้ 

กองทุน Global ETF ที่เราเลือกนั้น จะ เป็นกองทุนที่อยู่ในแผนเติบโต เหมาะสำหรับผู้ที่รับ ความเสี่ยงได้สูง มีผลตอบแทนคาดหวัง 8% ต่อปี โดยจะเน้นลงทุนในหุ้นทั่วโลก 80%และ ลงทุนในพันธบัตร 20%

เมื่อดูรายละเอียดการลงทุนในพอร์ทของเรา จะเห็นว่า กองทุน Global ETF แบบเติบโต นี้ ลงทุนหุ้นในตลาดสหรัฐอเมริกา (Nasdaq) ถึง 55% ตลาดหุ้นต่างประเทศ 16% และ ในตลาด Emerging marget 8% ที่เหลือนั้นจะเป็นการลงทุนในพันธบัตร ซึ่งก็ไม่น่าแปลกใจเลยที่ผลตอบแทนกองทุนของเราตั้งแต่เริ่มต้นจะติดลบ (-13%) เพราะ เทียบผลตอบแทนของตลาดหุ้น Nasdaq แล้ว ตั้งแต่วันที่เราเริ่มลงทุน จะถึงตอนนี้ ลงไปถึง 15% 

หลายคนอาจจะสงสัยว่า ตั้งแต่ที่เริ่มลงทุนมา ในเมื่อพอร์ทติดลบอยู่ แล้วทำไมเรายังไม่ขยับขยายเปลี่ยนไปลงทุนอย่างอื่น? เราก็คงต้องบอกว่า เหตุผลของเรามีอยู่ด้วยกัน 2 ข้อ คือ

  1. การลงทุนนี้เป็นการลงทุนระยะยาว ตราบใดที่เรายังคงมองเห็นเป้าหมาย หรือ ปลายทางอยู่ไกลๆ เราก็อย่าพึ่งรีบหยุดเดิน แต่ควรจะอดทนเดินต่อไปก่อน 
  2. ผลตอบแทนที่ได้ในปัจจุบัน ถ้ามองกันดีๆ กองทุนนี้ ให้น้ำหนักไปกับการลงทุนในหุ้น Nasdaq ค่อนข้างมาก และผลงานของกองทุน ก็ยังถือว่า ยังคงชนะตลาด Nasdaq อยู่

อย่างไรก็ตาม ถ้าดูผลงานกองทุน Global ETF แบบเติบโต ในปีนี้ (3 เดือนย้อนหลัง) ก็ยังถือว่าพอรับได้ เพราะ ผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือน อยู่ที่ 4.22% ซึ่งแน่นอนว่า การลงทุนโดยเฉพาะในตลาดหุ้นนั้นมีขึ้น มีลง ในช่วงภาวะตลาดต่างๆกัน ส่วนเราเองเลือกวางแผนการลงทุนแบบระยะยาว เพราะฉะนั้น อย่าหวั่นไหว ต้องรอดูกันไปยาวๆค่ะ

ถ้าจบ Q2 แล้ว พอร์ทลงทุนเพื่อการศึกษาของลูกแบบระยะยาวของลงทุนมัมจะเป็นอย่างไรกันต่อ ไว้จะเอามาอัพเดทกันนะคะ

ไหนๆ เราก็มีการวางแผนการลงทุนระยะยาว เพื่อการศึกษาให้ลูกๆกันแล้ว ลงทุนมัมอยากจะแชร์ Tips เล็กๆน้อยๆ ที่เราใช้สอนลูกเป็นบทเรียนการลงทุนจากประสบการณ์จริงจากแม่สู่ลูก ให้เพื่อนๆได้เอาไว้ใช้แบ่งปันให้ลูกๆด้วยค่ะ

  1. ทำเงินให้งอกเงย (การออม VS การลงทุน)

หากเรามีเงินอยู่ก้อนหนึ่ง ถ้าเราเอาเงินใส่กระปุกไว้เฉยๆ เงินที่เราสะสมมาก็จะมีเท่าเดิมและมูลค่าอาจลดลง(เนื่องจากเงินเฟ้อ) แต่หากเรานำเงินในกระปุกนั้นไปใช้ในการลงทุน เงินที่เราสะสมไว้อาจจะเพิ่มพูนขึ้นได้ โดยที่เราไม่ได้ต้องเติมเงินเพิ่ม แต่ให้เงินช่วยทำงานให้เรา

  1. รู้จักวางแผนการเงิน

เราควรเตรียมตัววางแผนการเงินไว้ล่วงหน้าทั้งระยะสั้นและยาว โดยตั้งเป้าหมายของการออมและระยะเวลาที่ต้องการใช้  เพื่อที่จะเลือกการออมที่เหมาะสมให้เงินได้งอกเงยไปจนถึงเป้าหมายที่เราต้องการ

  1. ถ้าเจออุปสรรคระหว่างทาง ให้อดทนและวิเคราะห์สถานการณ์ ถ้ายังอยู่ในเส้นทางที่จะพาเราไปถึงเป้าหมายได้ อย่าเพิ่งล้มเลิก
  1. เมื่อสถานการณ์เปลี่ยน และอาจจะทำให้เราไปไม่ถึงเป้าหมาย เราต้องรู้จักที่จะปรับเปลี่ยนไปทางเส้นใหม่ที่จะพาเราไปถึงเป้าหมายได้

ถ้าเพื่อนๆมีเทคนิคดีๆในการสอนลูกๆ เกี่ยวกับการลงทุน สามารถ Comment เพื่อแบ่งปันกันกับคุณพ่อ คุณแม่ท่านอื่นๆได้เลยนะคะ