การเรียนเลขแบบสิงคโปร์ มีเทคนิคอย่างไร?

คุณพ่อ คุณแม่ คนไหน รู้สึกว่า การเรียนเลข ยากบ้างคะ? หรือ มีลูกๆบ้านไหน ไม่ชอบเรียนเลขบ้าง?

“ลงทุนมัม” ได้อ่านเจอบทความหนึ่ง เกี่ยวกับ “เคล็ดลับการเรียนเลขที่คุณพ่อ คุณแม่ ควรรู้” ซึ่งเขียนโดย Mr. Lau Chin Loong ผู้ร่วมก่อตั้ง สถาบัน S.A.M (Seriously Addictive Mathermatics) สถาบันสอนคณิตศาสตร์ โดยใช้หลักสูตรคณิตศาสตร์ของสิงคโปร์ ที่มีสาขากว่า 200 สาขาใน 20 ประเทศทั่วโลก รวมถึงในประเทศไทยด้วย ซึ่งบทความนี้ได้อธิบายถึงหลักการและเทคนิคของ การเรียนเลขแบบสิงคโปร์ ที่น่าสนใจมากค่ะ

ต้องยอมรับว่า นักเรียนในประเทศสิงคโปร์มีการเรียนด้านคณิตศาสตร์ที่แข็งมาก เพราะดูจากผลคะแนนสอบวัดะดับคณิตศาสตร์ทั่วโลกของ TIMSS (Trends in International Mathematics and Science Study) และ PISA (Programme for International Student Assessment) ประเทศสิงคโปร์ต่างก็ติดอันดับ Top ของโลกแทบจะทุกครั้ง เพราะฉะนั้นแน่นอนว่า การเรียนเลขในหลักสูตรของสิงคโปร์ ย่อมมีอะไรดี และ แตกต่างจากที่อื่นอย่างแน่นอน

หลักการของ การเรียนเลขแบบสิงคโปร์ นี้ จะใช้วิธีเน้นให้เด็กๆได้เข้าใจ Concept ของเลขก่อนที่จะลงมือทำ โดยการสอน Concept ด้วย ภาพ และ สิ่งต่างๆที่จับต้องได้ ให้เด็กๆได้ลงมือทำกิจกรรมสนุกๆ เพื่อที่จะได้มี Hands-on Experience ซึ่งการเรียนแบบนี้ จะทำให้วิชาเลขที่ว่ายากๆ กลายเป็นวิชาที่สนุกและเข้าใจง่ายไปเลยค่ะ

เราลองมาดู Tips & Tricks ในการเรียนเลขของสิงคโปร์กันค่ะว่า ประเทศนี้มีเทคนิคอย่างไร ถึงทำให้วิชาคณิตศาสตร์ที่หลายคนมองว่ายาก เป็นเรื่องสนุกและเข้าใจง่ายได้

1. เรียนอย่างฉลาด โดยไม่จำเป็นต้องเรียนหนัก

เด็กหลายคนไม่ประสบความสำเร็จในการเรียนเลขเพราะว่า เสียเวลาไปกับการท่องจำและการฝึกฝนมากเกินไป โดยที่ไม่ได้เข้าใจในตัว Concept ของบทเรียนจริงๆ ตัวอย่างเช่น เด็กๆมักจะเสียเวลากับการท่องจำสูตรคูณแม่ต่างๆ โดยไม่ได้เข้าใจว่าที่มาของ สูตรคูณ คือ การรวมกลุ่มของสิ่งของต่างๆเป็นชุดๆ ซึ่งจริงๆแล้วเด็กๆไม่จำเป็นต้องท่องเลย ถ้าเข้าใจหลักการนี้ เพราะฉะนั้น ที่สิงคโปร์เค้าจะเน้นเรื่องการเข้าใจ Concept ของบทเรียนต่างๆมากกว่าการท่องจำค่ะ

2. อธิบายปัญหาด้วยสิ่งที่สามารถจับต้องได้

แทนที่จะให้เด็กๆเรียนเลขด้วยการอ่านโจทย์ แล้วทำ อาจจะนำสิ่งที่สามารถจับต้องได้มาใช้ร่วมด้วย เช่น ในเด็กเล็กหากเรียนเรื่อง การบวกเลข 3+5 =? เราก็จะนำ ตุ๊กตา 3 ตัว กับ ตุ๊กตา 5 ตัว มาวาง เพื่อให้ได้เห็นภาพของการเพิ่มขึ้นหรือการบวกนั่นเอง

3. อ่านคำถามและตีโจทย์ปัญหาให้เข้าใจ

เวลาอ่านโจทย์เลข เด็กๆ ควรจะต้องอ่านและทำความเข้าใจกับโจทย์ให้ชัดเจนว่าสิ่งที่ถามคืออะไร เพราะการทำโจทย์เลขนี้ จะต้องใช้ทักษะในการคิดวิเคราะห์เพื่อที่จะตีโจทย์ปัญหาให้ถูกด้วย

4. ค่อยๆทำความเข้าใจกับคณิตศาสตร์ทีละนิด ไปเรื่อยๆ

การที่เด็กๆทำความเข้าใจกับคณิตศาสตร์ไปทีละนิด แต่ทำทุกๆวัน นั้นจะ ช่วยให้เด็กเข้าใจได้ง่ายกว่า การที่อัดข้อมูลจำนวนมากๆในวันเดียว เช่น อาจจะเริ่มฝึกให้ลูกๆ ทำเลข ประมาณ15-30 นาทีต่อวัน แล้วค่อยๆเพิ่มเวลาไปเรื่อยๆ ถ้าจำเป็น

5. นำสิ่งรอบตัวมาใช้ในการอธิบายคณิตศาสตร์

การอธิบายหลักการทางคณิตศาสตร์ด้วยสิ่งรอบๆตัวจะทำให้เด็กๆ เข้าใจ Concept ได้ง่ายขึ้น เช่น การอธิบาย เรื่อง เศษส่วน อาจจะยกตัวอย่าง ว่า มี เค้กอยู่ 1 ก้อน ต้องการแบ่งให้เด็ก 4 คน จะแบ่งกันอย่างไร เป็นต้น

“ลงทุนมัม” ว่า การเรียนเลขด้วยวิธีแบบนี้ โดยเฉพาะในเด็กเล็กนั้น น่าจะมีประโยชน์มากๆเลยค่ะ เพราะนอกจากจะเป็นการวางรากฐานวิชาเลขที่ดีให้กับลูกๆของเราแล้ว ยังฝึกให้เด็กได้รู้จักการอ่านโจทย์แล้วนำมาคิดวิเคราะห์หาวิธีแก้ปัญหาด้วย

มาลองดูแนวทางการสอนเพื่อเข้าใจคอนเซ็ปต์สำหรับการแก้ปัญหาโจทย์เลขที่เกี่ยวกับเศษส่วนด้วยวิธีการเรียนเลขสไตล์สิงคโปร์กันนะคะว่ามีวิธีการอย่างไร

จะเห็นว่า การแก้ปัญหาคณิตศาสตร์ด้วยหลักสูตรสิงคโปร์นั้น น้องๆจะต้อง อ่านโจทย์เลขให้เข้าใจ แล้วแปลความหมายของสิ่งที่โจทย์ให้มาออกมาเป็นรูปภาพและแสดงวิธีทำทีละขั้นตอนตามลำดับ จนแก้ปัญหาได้ค่ะ ซึ่งจะค่อนข้างแตกต่างจากที่พวกเราเคยเรียนมา ที่จะอ่านโจทย์ แล้วตั้งสมการ เพื่อหาคำตอบ เพราะจะเป็นวิธีที่เห็นภาพมากกว่า

“ลงทุนมัม” มองว่า การเรียนเลขด้วยวิธีนี้ จะทำให้น้องๆเข้าใจในหัวข้อต่างๆของคณิตศาสตร์ได้ดีกว่า และเข้าใจได้นานกว่า ดีกว่าการท่องจำมากๆเลยค่ะ

เพื่อนๆผู้ปกครองที่สนใจให้ลูกๆได้เรียนคณิตศาสตร์ในแนวทางนี้ สถาบัน S.A.M (Seriously Addictive Mathermatics) มีสาขาในประเทศไทยด้วยนะคะ ตอนนี้มี 35 สาขาทั่วประเทศแล้วค่ะ

เพื่อนๆ สามารถดูบรรยาการการเรียนการสอน ของ สถาบัน S.A.M ที่ “ลงทุนมัม” พาไปเยี่ยมชมได้ที่นี่ค่ะ

และหาก เพื่อนๆสนใจ อยากนำน้องๆไปทดลองเรียน ลองติดต่อสอบถามกันได้นะคะที่

ที่เว็บไซด์ https://www.singaporemathsthailand.com/ หรือเพจ https://www.facebook.com/SingaporeMathsThailand/