fbpx

มีพ่อแม่หลายคนปรึกษา “ลงทุนมัม” ว่า ส่งลูกเรียนภาษาอังกฤษหรือเรียนโรงเรียนนานาชาติมาเกือบปีแล้ว ทำไมลูกยังไม่ยอมพูดภาษาอังกฤษซักที บางทีก็กังวลว่าลูกมีแต่เพื่อนคนไทย คุยภาษาไทย แล้วแบบนี้จะเข้าใจที่คุณครูต่างชาติพูดไหม? ต้องรออีกนานแค่ไหนกว่าจะทำให้ ลูกกล้าพูดภาษาอังกฤษ ได้ ? 😅

ใจเย็นๆค่าคุณพ่อคุณแม่ ก่อนอื่นเราต้องเข้าใจก่อนว่า การเรียนภาษาที่สองของเด็กในวัยที่ยังเล็กนั้น ส่วนมากโรงเรียนจะสอนให้เด็กเรียนรู้ตามธรรมชาติ ไม่ใช่สอนทฤษฎีแบบที่ผู้ใหญ่เราเรียนกัน ซึ่งการเรียนรู้ตามธรรมชาตินั้น เด็กๆจะซึมซับภาษาอังกฤษผ่านทางการฟัง ดูท่าประกอบของครูและสิ่งแวดล้อมเพื่อแปลความหมาย พอได้ฟังได้เห็นหลายๆครั้งจึงเกิดความเข้าใจ เมื่อเข้าใจแล้วถึงจะมาพัฒนาทักษะการพูดต่อไป ขั้นตอนเหล่านี้ต้องใช้เวลาค่ะ

แล้วต้องใช้เวลานานเท่าไหร่หล่ะ?…. “ลงทุนมัม” เองก็ถามคำถามนี้กับคุณครูตอนลูกเพิ่งเข้าเรียนชั้น Nursery เช่นกันค่ะ ว่า อีกนานแค่ไหนถึงจะทำให้ ลูกกล้าพูดภาษาอังกฤษ ? ก็มันน่าสงสัยใช่ไหมหล่ะคะ 😄  คุณครูให้คำตอบว่าพอเข้าเรียนปีที่ 3 จะเริ่มไม่ให้มีการพูดภาษาอื่นในห้องเรียนนอกจากภาษาอังกฤษ  ซึ่งหมายความว่า เด็กๆจะเริ่มมีความมั่นใจในทักษะภาษาของตนเอง และ พร้อมที่จะสื่อสารด้วยภาษาอังกฤษกับครูและเพื่อนอย่างเต็มตัวแล้ว

และจากประสบการณ์ของลูก “ลงทุนมัม” เอง ระยะเวลาก็ใกล้เคียงกับที่คุณครูบอกมาก ตอนเริ่มเข้าเรียนปีแรกลูกแทบไม่พูดภาษาอังกฤษเลย มีแต่เพื่อนคนไทยและชอบคุยภาษาไทยกับ TA หรือครูผู้ช่วยคนไทย…

พอเข้าเรียนปีที่ 2 ก็เริ่มคุยกับคุณครูต่างชาติมากขึ้น เริ่มกล้าตอบคำถามในห้องบ้าง….

เมื่อเข้าปีที่ 3 ลูกมาเล่าว่าคุณครูไม่ให้คุยภาษาไทยในห้องทั้งกับเพื่อนและ TA (เด็กต่างชาติก็ห้ามคุยภาษาชาติตัวเองเช่นกัน) และประกอบกับในปีนี้เริ่มสังเกตว่าลูกเริ่มมีเพื่อนต่างชาติมากขึ้น (เย้!) สถานการณ์ต่างๆเหมือนเป็นการบังคับลูกไปในตัว ให้ ลูกกล้าพูดภาษาอังกฤษ  ซึ่งทุกอย่างเป็นไปอย่างธรรมชาติมาก ลูกเองก็ไม่ได้รู้สึกว่าถูกกดดันอย่างไร และหลังจากผ่านปีที่ 3 ลูกก็เริ่มใช้ภาษาอังกฤษได้คล่องขึ้นมาก สามารถพูดสลับได้ทั้งภาษาไทยและอังกฤษโดยไม่ต้องใช้เวลาคิดนานเลยค่ะ

ทั้งหมดที่ “ลงทุนมัม” เล่าให้ฟังนี้ เด็กบางคนก็ปรับตัวได้เร็วกว่าหรือช้ากว่าบ้าง ซึ่งเป็นปกตินะคะ ทั้งนี้ทั้งนั้น ถ้าคุณพ่อคุณแม่ยังกังวล ก็ปรึกษาคุณครูได้ เพราะคุณครูเองจะคอย สังเกตและประเมินพัฒนาการของลูกเราอยู่แล้วค่ะ

“ลงทุนมัม” เชื่อว่าการเรียนภาษาที่สอง ภาษาที่สาม หรือ ภาษาที่สี่ สำหรับเด็กไม่ใช่เรื่องที่ยากเกินไป เพราะสมองเด็กกำลังพัฒนาทำให้เรียนรู้ได้ไว โดยเฉพาะทักษะทางด้านภาษาและการสื่อสาร ที่ในวัยเล็กๆนั้นจะเป็นวัยที่พัฒนาไปได้เร็วมาก สังเกตจาก เด็กๆ เรียนภาษาไวและรวดเร็วกว่า ผู้ใหญ่อย่างเราๆ ที่เริ่มเรียนภาษาซะอีก 

จุดที่ “ลงทุนมัม” ว่า สำคัญมากๆ สำหรับการเรียนภาษา ก็คือ การที่ลูกๆของเราได้ฝึกใช้ภาษานั้นบ่อยๆ และกำลังใจจากพ่อแม่อย่างเราๆที่จะคอยสนับสนุนและส่งเสริมให้ลูกมั่นใจ และ รู้ว่าเป็นสิ่งที่ลูกทำได้ ทำให้ลูกอยากที่จะเรียนรู้ และ ทำให้การเรียนเป็นเรื่องสนุก ไม่กดดันหรือเปรียบเทียบ และถ้าลูกโตหน่อยก็อาจเพิ่มการสร้างเป้าหมายให้ลูกได้รู้ว่าเรียนไปเพื่อใช้ทำอะไร เช่น ได้ดูหนังภาษาอังกฤษเข้าใจ หรือจะได้เที่ยวต่างประเทศ 😄😄  แล้วคุณพ่อคุณแม่จะทึ่งกับความสามารถของลูกๆแน่นอนค่ะ

.

สนใจเรื่องราวนานาสาระ เกี่ยวกับชีวิต เด็กอินเตอร์ ลองอ่านที่ “ลงทุนมัม” เคยเล่าไว้ที่ได้ที่นะคะ

ช่วยกันกดไลค์หรือคอมเมนต์เป็นกำลังใจให้ “ลงทุนมัม” กันด้วยนะคะ และอย่าลืมกด See First เพื่อไม่ให้พลาดข้อมูลดีๆจาก “ลงทุนมัม” ค่ะ

.

++ ชอบอ่านบทความดีๆ มีสาระพร้อมความบันเทิง กดติดตามได้ที่ ++
FB: http://www.facebook.com/longtunmom/
Page: https://www.longtunmom.com

++ เน้นเรื่องรีวิวโรงเรียน กดติดตามได้ที่ ++
FB: http://www.facebook.com/reviewmom/

#ลงทุนมัม #longtunmom #language #englishlanguage #secondlanguage #languagelearning #internationalschool